ปวดเรื้อรัง วิตกกังวล นอนไม่หลับ ย้ายจากสถานะความเจ็บปวดไปยังสถานะการไหล

รุ่นล่าสุด

เวอร์ชัน
ปรับปรุง
14 ส.ค. 2567
นักพัฒนาซอฟต์แวร์
Google Play ID
การติดตั้ง
1,000+

Flowly APP

เรารู้ว่าคุณได้พยายามทุกอย่างแล้ว Flowly ไม่ใช่แอปทำสมาธิ Flowly สอนวิธีควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ และระบบประสาทที่แท้จริงของคุณ ด้วยวิธีนี้ คุณจะได้รับการฟื้นฟูร่างกายของคุณ ด้วยวิธีนี้ คุณจะได้รับชีวิตกลับคืนมาจากความเจ็บปวดและความวิตกกังวล

Flowly นำความจริงเสมือน (VR) และไบโอฟีดแบ็คมาสู่มือคุณอย่างแท้จริง 1) เราส่งชุดหูฟัง VR ให้คุณเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยใน VR 2) ในพื้นที่ปลอดภัยของคุณ คุณจะสามารถดูอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ เพื่อให้คุณสามารถเรียนรู้ที่จะควบคุมระบบประสาทและเข้าสู่การผ่อนคลายอย่างลึกซึ้ง

ไม่มีกระสุนเงินและเราจะไม่รับประกันว่า Flowly จะใช้งานได้กับทุกคน แต่เราได้เสร็จสิ้นกรณีศึกษาและการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมซึ่งสนับสนุนโดย NIH ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความเจ็บปวดและการใช้ยาลดลงอย่างมาก ชุมชนของเราเต็มไปด้วยฮีโร่นับพัน รวมถึงผู้ป่วยที่เจ็บปวด ผู้ดูแล ผู้ให้บริการ และอีกมากมาย ที่สามารถรับรอง Flowly ได้

Flowly แตกต่างจากการทำสมาธิ
“การทำสมาธิเป็นวิธีการจากบนลงล่างที่คุณเรียนรู้ที่จะควบคุมจิตใจของคุณให้ส่งผลต่อร่างกายของคุณก่อน การฝึกแบบ Flowly และ biofeedback ใช้วิธีการจากล่างขึ้นบน: ก่อนอื่นคุณเรียนรู้ที่จะควบคุมร่างกายและระบบประสาทของคุณ แล้วจึงส่งผลในเชิงบวกต่อจิตใจของคุณ” - ดร. Robert D Tien อดีตประธาน NeuroMR ที่ Duke

ภารกิจของ FLOWLY คือการทำให้ BIOFEEDBACK และ VR THERAPY เป็นประชาธิปไตย
Flowly ผสมผสานสองวิธีที่ได้รับการศึกษาเพื่อการจัดการความเจ็บปวดและความวิตกกังวล: ไบโอฟีดแบ็คสำหรับการฝึกผ่อนคลายและความจริงเสมือน ภารกิจของเราคือการนำวิธีการรักษาที่โดยทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ และส่งมอบ (ตามตัวอักษร) ให้กับคนที่ต้องการการรักษามากที่สุด ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้ Flowly บนเตียง ที่ทำงาน หรือแม้แต่ดึงขึ้นข้างถนน คุณจะได้เรียนรู้เทคนิคการหายใจและการฝึกหายใจที่คุณสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้!

Flowly ได้รับการศึกษาในการทดลองทางคลินิกซึ่งสนับสนุนโดย National Institutes of Health (NIH) และ National Institute on Drug Abuse (NIDA) เราเป็นพันธมิตรกับ University of Southern California (USC) และ University of Pittsburgh Medical Center (UPMC)
อ่านเพิ่มเติม

โฆษณา

โฆษณา